กองทุน RMF ลดหย่อนภาษี เป็นกองทุนรวมที่มนุษย์เงินเดือนให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากกองทุนประเภทนี้เป็นกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพที่สามารถใช้เป็นเงินเก็บยามเกษียณของมนุษย์เงินเดือนได้เป็นอย่างดีว่า จะมีเงินก้อนใช้จ่าย และที่สำคัญทุกคนไม่ว่าจะเป็นมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ หรือเจ้าของกิจการ จะต้องพบกับวาระการเกษียณอายุ ที่หมายถึงรายได้หลักที่เคยได้รับจะไม่มีเข้ามาอีก พร้อมกับอายุที่มากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นเพื่อให้ทุกคนได้เริ่มต้นวางแผนการลงทุน ได้อย่างเหมาะสม กองทุน RMF มีข้อดีอะไรที่น่าสนใจอีกบ้าง ไปติดตามด้วยกัน
5 ข้อดีกองทุน RMF ลดหย่อนภาษี ที่ช่วยกระตุ้นให้คุณเริ่มต้นการออม
กองทุน RMF ลดหย่อนภาษี มีเงื่อนไขที่ค่อนข้างเข้มงวด แต่ในขณะเดียวกันก็สร้างความยืดหยุ่นในการลงทุนด้วย กล่าวคือ กองทุนประเภทนี้ นักลงทุนจะสามารถขายคืนหน่วยการลงทุนทั้งหมดได้ เมื่อลงทุนต่อเนื่องเป็นระยะเวลา 5 ปี และในขณะนั้นนักลงทุนจะต้องมีอายุ 55 ปี หากขาดเงื่อนไขใดไปจะไม่สามารถขายหน่วยการลงทุนได้ และในระหว่างการลงทุนจะไม่มีนโยบายจ่ายเงินปันผล ซึ่งความเข้มงวดของเงื่อนไขดังกล่าวจะกลายเป็นหลักประกันที่ดี เมื่อนักลงทุนเดินทางมาถึงปลายทางจะมีเงินก้อนรออยู่อย่างแน่นอน
ส่วนความยืดหยุ่นในการลงทุน นั่นคือถึงแม้ว่ากองทุนจะกำหนดให้ต้องลงทุนต่อเนื่องกันทุกปีจนถึงอายุ 55 ปี แต่ถ้าหากนักลงทุนไม่สามารถลงทุนได้ในระหว่างนั้น เงื่อนไขก็อนุญาตให้นักลงทุนซื้อกองทุนแบบปีเว้นปีได้ นอกจากนี้กองทุน RMF ยังมีข้อดีที่น่าสนใจอื่น ๆ อีก นั่นคือ
- สามารถนำยอดซื้อไปหักลดหย่อนภาษีได้
ระหว่างการลงทุนก่อนที่จะเข้าสู่วัยเกษียณ มนุษย์เงินเดือนจะต้องพบกับภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาที่จะต้องมีการยื่นและชำระภาษีกันทุกปี โดยถ้าปีไหนใครมีรายได้สุทธิจำนวนมาก แน่นอนว่าต้องจ่ายภาษีจำนวนมากเช่นกัน ดังนั้นการคำนวณภาษี และการซื้อกองทุนเพื่อลดหย่อนภาษี จึงกลายเป็นเทคนิคช่วยประหยัดภาษีของมนุษย์เงินเดือน อย่างกองทุน RMF ลดหย่อนภาษี จะสามารถนำยอดซื้อกองทุนไปหักลดหย่อนภาษีได้ไม่เกิน 30% ของรายได้ต่อปี สูงสุดไม่เกิน 500,000 บาทเมื่อรวมกับการออมและกองทุนรวมเพื่อการเกษียณอายุอื่น ๆ ช่วยให้เงินได้สุทธิมีจำนวนลดลง จึงประหยัดภาษีมากขึ้น
- ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อ สามารถวางแผนภาษีได้ง่าย
ปัจจุบันกองทุน RMF ไม่มีขั้นต่ำในการซื้อต่อปี ทั้งเรื่องของจำนวนครั้งและจำนวนเงิน เปิดโอกาสให้มนุษย์เงินเดือนที่ต้องการลงทุน สามารถเลือกลงทุนในกองทุนต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสมกับตัวเองได้สะดวกขึ้น
- สามารถเลือกความเสี่ยงที่ตัวเองยอมรับได้
ในหนังสือชี้ชวนของกองทุน RMF จะมีระบุระดับความเสี่ยงให้นักลงทุนได้ตัดสินใจ ตั้งแต่ความเสี่ยงระดับต่ำ ระดับกลาง และระดับสูง นักลงทุนสามารถศึกษานโยบายการลงทุน ไปพร้อม ๆ กับการเลือกระดับความเสี่ยงที่สอดคล้องกันได้ ข้อควรระวังคือ นักลงทุนควรศึกษานโยบายการลงทุน และความเสี่ยงต่าง ๆ จากหนังสือชี้ชวนด้วยตัวเอง ไม่ควรตัดสินใจซื้อกองทุนตามแนะนำของคนอื่น เพราะแต่ละคนจะสามารถรับความเสี่ยงได้แตกต่างกัน และทุกคนมีความสนใจสินทรัพย์ที่ไม่เหมือนกัน
- สามารถเลือกลงทุนในสินทรัพย์ได้ทุกประเภท
กองทุน RMF ลดหย่อนภาษีมีนโยบายในการลงทุนกับสินทรัพย์ทุกประเภท นักลงทุนสามารถเลือกสินทรัพย์ที่ตัวเองมีความสนใจได้ เช่น หุ้นไทย, หุ้นต่างประเทศ, ทองคำ, ตราสารหนี้, อสังหาริมทรัพย์ และสินทรัพย์โภคภัณฑ์อื่น ๆ เป็นต้น
- มีผู้จัดการกองทุนคอยดูแล ไม่ต้องมีความเชี่ยวชาญในการลงทุน
นักลงทุนที่ที่ไม่เคยประสบการณ์ในการลงทุนมาก่อน การตัดสินใจซื้อกองทุน RMF ไม่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญในการลงทุน แต่นักลงทุนต้องมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกองทุนที่ซื้อ เพราะหน้าที่บริหารการลงทุนจะของผู้จัดการกองทุนและทีมงานผู้มีความเชี่ยวชาญคอยช่วยดูแล ทำให้มนุษย์เงินเดือนสามารถโฟกัสกับงานประจำที่ทำได้อย่างเต็มที่ และปล่อยให้เงินทำงานร่วมกับผู้จัดการกองทุนแทน
กองทุน RMF ลดหย่อนภาษี คือหนึ่งในกองทุนที่ควรมีติดพอร์ต โดยเฉพาะหากวันนี้คุณยังอยู่ในวัยทำงาน อายุยังน้อย โดยอาจแยกให้พอร์ตนี้เป็นการลงทุนเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ ตั้งมั่นเลยว่าจะไม่แตะต้องหรือขายก่อนกำหนดอย่างเด็ดขาด เมื่อถือครองกองทุนจนครบอายุ 55 ปี คุณอาจจะเกษียณอายุตัวเองก่อนอายุ 60 ปี แล้วออกมาใช้ชีวิตสบาย ๆ ตามต้องการได้ไวกว่าใครก็ได้
